บริการทำความสะอาดและฆ่าเซื้อโรค ดูดฝุ่นที่นอน
ด้วยความต้องการของผู้คนที่รักสุขภาพและความปลอดภัย ที่มีโอกาสต่อการเป็นโรคภูมิแพ้สูงขึ้น
ดี ไฮจีนิค ผู้เชี่ยวชาญบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคที่นอน ด้วยเทคโนโลยีจากเยอรมนี ที่สามารถแก้ปัญหาไรฝุ่นในที่นอนให้หมดไป
ไรฝุ่นบนที่นอนคือสารก่อภูมิแพ้ที่หลายคนอาจมองข้าม ดี ไฮจีนิค ผู้เชี่ยวชาญบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคที่นอนด้วยเทคโนโลยีจากเยอรมนีที่สามารถแก้ปัญหาไรฝุ่นในที่นอนให้หมดไป
สิ่งที่เราแตกต่างจากคนอื่น
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Asset-1-1.png)
แห้ง 100%
เทคนิคการฆ่าเชื้อโรคไม่เพิ่มความชื้นในอากาศ
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Asset-3-1.png)
สะดวก 100%
สามารถใช้งานได้ทันทีหลังจากทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Asset-5-1.png)
ปลอดภัย 100%
น้ำยาฆ่าเชื้อโรคปราศจากสารเคมี ปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Asset-4-1.png)
ถูกสุขอนามัย 100%
รับรองความปลอดภัยและสุขอนามัย
เราใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตบนเตียงโดยที่ไม่รู้เลยว่าเตียงที่ดูสะอาดนั้น จริงๆ แล้วมีสารก่อภูมิแพ้ซ่อนตัวอยู่
ดี ไฮจีนิคขอแนะนำให้ใช้บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่นอนอย่างน้อยทุกๆ 3-4 เดือน
เพื่อรักษามาตรฐานสุขอนามัยของที่นอน เพื่อการนอนที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
บริการอันดับ 1 ของประเทศไทย
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2021/02/B7C564A9-E4A7-4400-9994-44767EAE4C52-1024x683.jpg)
เราเลือกใช้ต้นแบบเครื่องมือในการซานิไทส์ซิ่งและฆ่าเชื้อโรค ซึ่งถูกออกแบบและจดสิทธิบัตรที่ประเทศเยอรมนีในปี พศ.2532 ได้รับการยอมรับโดยผู้ใช้ระบบนี้มากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
ได้รับการรับรองและเชื่อถือในวงกว้างจากวารสารนิตยสารนานาชาติ และได้รับการพิสูจน์แล้วจากห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์ ซึ่งเป็นระบบการซานิไทส์และฆ่าเชื้อโรคที่นอนเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลและใบเกียรติคุณจาก ECARF (European Center For Allergy Research Foundation)
เป็นที่รับรู้โดยผ่านการรับชมในรายการโทรทัศน์ในหลายๆ ประเทศสำหรับผลลัพธ์ของการซานิไทส์ และฆ่าเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในที่พักอาศัยและโรงแรมชั้นนำทั่วโลก
ขั้นตอนและกระบวนการ
กระบวนการในการฆ่าเชื้อโรคและซานิไทส์เซชั่นที่นอนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Info-Layer-Mattress-01-1024x724.jpg)
1.ขั้นตอนการแยกอนุภาคฝุ่นออก
ระบบจะใช้วิธีการสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่ระดับสูงไปยังที่นอน (Pulverization) เพื่อที่จะทำให้อนุภาคของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ฝังลึกอยู่ในที่นอนนั้นหลุดออกมา
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Info-Layer-Mattress-02-1024x724.jpg)
2.ขั้นตอนการแยกสิ่งสกปรก
การใช้สูญญากาศดึงเอาสิ่งสกปรกและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก รวมถึงไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่นที่มีสารก่อภูมิแพ้ ออกจากที่นอน
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Info-Layer-Mattress-03-1024x724.jpg)
3.ขั้นตอนการฆ่าเชื้อโรค
การฉายแสงรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต Type C หรือ UV-C ชนิดเข้มข้น สามารถฆ่าเชื้อโรคทั้งหมด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/11/Info-Layer-Mattress-04-1024x724.jpg)
4.ขั้นตอนการปกป้องที่นอนในระยะยาว
ในขั้นตอนสุดท้ายของระบบการซานิไทส์ ด้วยประสิทธิภาพของสเปรย์โปเตม่าที่นำเข้าจากประเทศเยอรมนี และยังได้รับสิทธิบัตรและการยอมรับในระดับสากล ฉีดลงบนพื้นผิวเพื่อการฆ่าเชื้อโรคพร้อมยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่นอย่างต่อเนื่องและยาวนาน 2-3เดือน
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/03/DH_CLEAN-01.jpg)
![](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/03/DH_CLEAN-02.jpg)
ปริมาณฝุ่นที่ทดสอบจากเตียงก่อนและหลังทำความสะอาด
คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่เหล่าลูกค้าของเรามักถามกันเป็นส่วนใหญ่ 🙂
โดยปกติทางเราแนะนำให้ทำความสะอาดดูดฝุ่นที่นอนทุกๆ 3-4 เดือน เพื่อรักษามาตรฐานความสะอาดและถูกหลักสุขอนามัยที่ดีของที่นอนอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ในระดับอันตราย
อุปกรณ์ฆ่าเชื้อที่นอนของเราออกแบบและจดสิทธิบัตรในระดับสากลในประเทศเยอรมนี โดยได้รับการรับรองว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในโลก อีกทั้งยังปลอดสารเคมีและความชื้นอีกด้วย ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลักๆ
ขั้นตอนที่ 1 ระบบเฉพาะของเครื่อง Mattress Sanitizing System จะสร้างคลื่นแรงสั่นสะเทือนความถี่สูงให้กับที่นอนและคลายสิ่งสกปรกภายในที่นอนชั้นลึก 8-9 นิ้ว และทำการกักเก็บสิ่งสกปรกทุกประเภทออกมาจากที่นอนของคุณ
ขั้นตอนที่ 2 การกำจัดไรฝุ่น เชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กด้วย การฉายแสง UV-C ทำงานร่วมกับระบบสูญญากาศระดับอุตสาหกรรมที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับที่นอนโดยเฉพาะ ทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งเหล่านี้จะหมดไปจากที่นอนคุณ
ขั้นตอนที่ 3 การป้องกันระยะยาวด้วยการใช้สเปรย์โปเตม่าที่ได้รับการจดสิทธิบัตรระดับสากล พ่นเคลือบบนพื้นผิวเตียงเพื่อปกป้องที่นอนจากเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา และที่สำคัญคือลดการแพร่กระจายและลดการเจริญเติบโตของไรฝุ่น
ขั้นตอนทั้งหมดใช้ระยะเวลาประมาณ 30 – 40 นาทีต่อ 1ที่นอน ซึ่งการทำความสะอาดที่นอนนั้นจะทำทั้งสองด้านของที่นอนถ้าเป็นที่นอนที่สามารถนอนได้ 2 ด้าน
เพื่อการให้บริการที่ราบรื่น รวดเร็วและเพิ่มความมั่นใจ เราแนะนำให้ทางลูกค้าจัดเตรียมผู้ที่จะประสานงานและให้ข้อมูลกับทีมงานที่จะเข้าให้บริการ ตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าสำรวจและประเมินพื้นที่หน้างาน ช่วงระหว่างการให้บริการ จนกระทั่งสิ้นสุดกระบวนการ โดยจะมีการวัดค่าเปรียบเทียบก่อนและหลังให้บริการให้ลูกค้าสามารถเห็นความแตกต่างและผลงานการบริการของเรา
เพราะที่นอนมีการสะสมของ ไรฝุ่น เชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อรา อย่างมากมาย การทำความสะอาดที่นอนอย่างมืออาชีพที่ถูกหลักสุขอนามัยเป็นประจำจะสามารถกำจัดสิ่งเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้ที่นอนของคุณสามารถใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกที่ทำร้ายสุขภาพของคุณหรือคนในครอบครัวที่คุณรักได้
ไม่เห็นคำถามที่คุณกำลังมองหาใช่ไหม ? สอบถามเพิ่มเติม
ความคิดเห็นจากลูกค้า
ลูกค้าของเราใช้บริการทำความสะอาดที่นอนและแสดงความคิดเห็นกับเรา 🙂
![ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/15dfec12f26ea42b955695ea4505cb78-pu7o0fehgkucwvflftfzbjsx9b9zxn08mqqeceqnh8.jpg)
![คาริสา](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/06/คาริสา-150x150.jpg)
![นุ้ย สุจิรา](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/06/นุ้ย-สุจิรา.jpg)
![สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/03/YEk6Wc.jpg)
![นิหน่า สุฐิตา](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/06/นิหน่า-สุฐิตา.jpg)
![กระแต ศุภักษร](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/06/กระแต-ศุภักษร.jpg)
![ตุ๊ก ชนก](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/06/ตุ๊ก-ชนก.jpg)
![น้อต วรวิท](https://dh-thailand.com/wp-content/uploads/2020/06/น้อต-วรวิท-150x150.jpg)