สิ่งน่ากังวลกว่า PM2.5 อาจเป็นแมง 8 ขา บนที่นอน ทุกวันนี้ปัญหามลภาวะเป็นพิษทางอากาศ PM2.5 ที่เราคุ้นเคย ได้กลับมาอีกครั้ง เป็นที่คาดเดาได้ยากว่า มลภาวะเป็นพิษแบบนี้ จะจากเราไปได้ในตอนไหน หรือบางทีแล้ว มันอาจจะอยู่กับพวกเราไปตลอดชีวิต ก็เป็นได้
ฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 มีบทบาทในการทำลายสุขภาพเรา จากการใช้ชีวิตภายนอกอาคาร เช่น ระหว่างการเดินทางไปทำงาน หรือรับประทานอาหาร หรือแม้กระทั่งการอยู่ภายในอาคาร ที่ไม่มีเครื่องกรองฝุ่นขนาดเล็ก อีกเช่นกัน หากนับเป็นจำนวนชั่วโมงแล้ว เราอาจจะใช้เวลาทั้งหมดอยู่ภายนอกอาคาร เฉลี่ยไม่เกิน 4 ชั่วโมงต่อวัน แต่อย่างน้อยที่สุด เราก็ยังมีการป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นได้ หรือเราอาจสามารถเลือกที่จะหลีกเลี่ยงด้วยวิธีอื่นๆ เช่นการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารนอกอาคาร โดยการใช้บริการดิลิเวอรี
แต่รู้หรือไม่ว่า อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นอันตรายเท่ากับ PM2.5 และอยู่ใกล้ชิดกับเรามาก จนเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
สิ่งที่จะกล่าวถึงนี้คือ “ไรฝุ่น” ตัวการหลักที่ทำให้เกิดสารก่อภูมิแพ้อันดับหนึ่ง อีกหนึ่งภัยร้ายเงียบ ที่หลายคนมองข้ามไป หากเรารู้เพียงแค่ต้นกำเนิด หรือความหมาย ก็ไม่สามารถที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้นได้ สิ่งสำคัญคือ เราจะต้องรู้ว่า เราจะกำจัดไรฝุ่นให้หายขาดไปได้ ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร? ซึ่งแน่นอนว่า ลำพังแค่เครื่องดูดฝุ่นที่นอน หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ คงไม่สามารถกำจัดเจ้าไรฝุ่นได้ เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ดี ไฮจีนิค จะเล่าให้ฟัง “ไรฝุ่น” คือแมงที่มีขนาดเล็กมากจนมนุษย์เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยด้วยตาเปล่า ความยาวเพียง 0.1 – 0.3 มิลลิเมตร มีขนาดเทียบเท่ากับฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM10
ทีนี้เรามาดูกันว่า ไรฝุ่น เติบโตได้อย่างไร?
ไรฝุ่นจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมอุ่นชื้น อุณหภูมิประมาณ 25 – 30 องศาเซลเซียส และไม่ชอบแสงสว่าง เลยเป็นสาเหตุที่เราสามารถพบไรฝุ่นได้ตามที่นอน หมอน ผ้าห่ม พรม สิ่งที่น่ากลัวคือ เราต้องใช้เวลานอนหลับยามค่ำคืนที่มากกว่า 6 ชั่วโมง จึงกล่าวได้ว่า ไรฝุ่นอยู่ใกล้ชิดกับเรามากที่สุดในทุกๆ คืนนั่นเอง สิ่งสำคัญที่สุดของการอยู่รอดของไรฝุ่น เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ คือ อาหาร และอาหารของไรฝุ่นคือ “เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของมนุษย์” อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังจากสหรัฐอเมริกา โดยปกติมนุษย์เราจะผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วประมาณ 30,000 – 40,000 เซลล์ทุกวัน หรือคิดเป็นประมาณ 5 กรัมโดยเฉลี่ย ซึ่งนั่นสามารถเป็นอาหารของไรฝุ่นได้มากถึง 5 ล้านตัว เป็นระยะเวลานานมากถึง 1 สัปดาห์ รู้หรือไม่ว่า ในฟูกเตียงนอนที่ไม่เคยทำความสะอาดในรูปแบบที่ถูกต้อง อาจมีไรฝุ่นสะสมได้มากถึง 2 ล้านตัวเลยทีเดียว.. เราคงจะเห็นแล้วว่า ภัยร้ายเงียบที่ก่อตัวระหว่างที่เรานอนหลับ อันตรายมากแค่ไหน
จุดสำคัญที่ต้องพูดถึงต่อมาคือ การกำจัดไรฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ ต้องทำอย่างไร?
อ้างอิงขั้นตอนการกำจัดไรฝุ่นที่ถูกต้องจาก นวัตกรรมกระบวนการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค หรือ การซานิไทส์เซชั่น จากบริษัท POTEMA® บริษัทซานิไทส์เซชั่นที่นอนเจ้าแรกที่จดสิทธิบัตรจากประเทศเยอรมนี ซึ่งมีเครื่องมือ Acarex Test Kit ในการตรวจวัดสารก่อภูมิแพ้บนที่นอนทั้งยังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายและมีการเปิดสาขามากมายในยุโรป โดยเทคโนโลยีนี้ได้นำมาใช้กับ โรงแรมระดับ 7 ดาว เช่น Burj Al Arab, Conrad Centennial, Grand Hotal Esplanade Berkin และโรงแรมชั้นนำอีกหลายแห่ง
ขั้นตอนที่ 1
การแยกอนุภาคฝุ่นออก การสร้างการสั่นไหวด้วยคลื่นความถี่ระดับสูงไปยังที่นอน เพื่อที่จะทำให้อนุภาคของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ฝังลึกอยู่ในที่นอนนั้นหลุดออก
ขั้นตอนที่ 2
การแยกสิ่งสกปรก ให้ออกมาด้วยการสกัดผ่านระบบสูญญากาศหลายระดับ โดยใน 2 ขั้นตอนแรกนี้ จะถูกกระทำด้วยเครื่องดูดพิเศษที่มีน้ำหนักประมาณ 25 กิโลกรัม
ขั้นตอนที่ 3
การฆ่าเชื้อโรค ด้วยการทำงานของรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตเข้มข้น (UVC) วิธีการนี้เป็นกระบวนการเดียวกันที่ใช้และได้รับการยอมรับในด้านการแพทย์
ขั้นตอนที่ 4
การปกป้องเตียงนอนในระยะยาว ด้วยประสิทธิภาพของสเปรย์ฆ่าเชื้อ
อ่านถึงตรงนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า ไม่ใช่เพียงแค่การดูดฝุ่นจากเครื่องดูดฝุ่นเตียงนอนทั่วไป จะทำให้ไรฝุ่นเกิดความเคลื่อนไหวหลุดจากที่นอนได้มากกว่านั้นคือ ขั้นตอนของการแยกสิ่งสกปรก และการฆ่าเชื้อ ซึ่งไม่สามารถกระทำได้ภายในการดูดฝุ่นแค่รอบเดียว อย่างที่เราอาจเข้าใจผิดกันมา การดูแลที่นอน ไม่ได้มีจุดประสงค์เพียงแค่ ในเรื่องของความสะอาดอย่างเดียว แต่ประโยชน์ที่สำคัญนั่นคือ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราและคนใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กเล็ก เพราะหากเราไม่เริ่มจากการแก้ไขมลภาวะที่เป็นพิษจาก สิ่งใกล้ตัวภายในบ้าน อย่างที่นอน
ร่างกายเรา ก็จะอ่อนแอจากโรคภูมิแพ้ที่ไม่มีวันหายได้.. ไม่ได้มีเพียงแต่เตียงนอนเท่านั้นที่เป็นแหล่งรวมสิ่งสกปรกอย่างไรฝุ่น แต่เบาะที่นั่ง โซฟา และพื้นปูพรม ก็เป็นแหล่งสะสมของแมลง 8 ขา ที่น่ากลัวไม่แพ้กัน.. ขนาดที่แบรนด์หรูระดับโลกที่มีสาขาในประเทศไทย อย่าง Prada, Louis Vuitton, Cartier, Audi, BMW และแบรนด์ Hi End อีกมากมาย ก็ยังมีการใส่ใจในเรื่องของการทำความสะอาดฆ่าเชื้อไรฝุ่น จากพรมภายในร้าน ด้วยเทคโนโลยีของ POTEMA® จากบริษัท De Hygienique ที่เป็นผู้นำเข้าเทคโนโลยีนี้เป็นเจ้าแรก ของประเทศไทย
สะอาด ปลอดภัย ด้วยบริการจาก “ดี ไฮจีนิค”
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
De Hygienique ทั้ง 2 สาขา
1. Emporium แผนก The Living ชั้น 4
2. Central ชิดลม แผนก Bedding ชั้น 5
หรือผ่านช่องทางออนไลน์
– Facebook : @dhthailand
– Line : @dh-thailand
– IG : dhthailand
– Call : 02-281-7103