ด้วยสังคมเมืองในยุคปัจจุบันที่พวกเราอาศัยอยู่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การทำความสะอาดด้วยวิธีการเก่าๆ ในอดีตสามารถแทนที่ได้ด้วยวิธีกำจัดฝุ่นที่นอนที่ดีที่สุดของ ดีไฮจีนิค ผู้เชี่ยวชาญในด้านการซานิไทส์ซิ่ง (Sanitizing) และฆ่าเชื้อโรคที่นอน ซึ่งมาพร้อมกับวิธีการที่มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายกว่าวิธีการเดิมๆ ด้วยการบริการที่มีคุณภาพ รับรองผล 100% ในเรื่องของความแห้ง สะดวก และปราศจากสารเคมีตกค้าง ทางเราขอแนะนำให้ดูแลมาตรฐานของไฮจีนและฆ่าเชื้อโรคดูดฝุ่นที่นอนของท่านอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพชีวิตในการนอนที่ดีที่สุด
เกียรติคุณและรางวัลของโปเตม่า เครื่องมือการซานิไทส์และฆ่าเชื้อโรคที่นอน– เป็นต้นแบบเครื่องมือในการซานิไทส์ซิ่งและฆ่าเชื้อโรคที่นอน ซึ่งถูกออกแบบและจดสิทธิบัตรที่ประเทศเยอรมนีในปี พศ.2532
– ได้รับการยอมรับ และมีผู้ใช้ระบบนี้มากกว่า 16 ประเทศทั่วโลก และมากกว่า 5,000 ระบบได้ถูกกระจายไปให้กับผู้ให้บริการ ด้านการดูแลไฮจีน(Hygiene)ในหน่วยงานชั้นนำทั่วโลก
– ได้รับการรับรองและเชื่อถือในวงกว้างจากวารสาร นิตยสารนานาชาติ และได้รับการพิสูจน์แล้วจากห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์
– ได้รับการรับรองและเชื่อถือในวงกว้างจากวารสาร นิตยสารนานาชาติ และได้รับการพิสูจน์แล้วจากห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์ – ด้วยระบบการซานิไทส์และฆ่าเชื้อโรคที่นอนเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลและใบเกียรติคุณจาก ECARF (European Center For Allergy Research Foundation)
– เป็นที่รับรู้และรับชมในรายการโทรทัศน์ในหลายๆประเทศสำหรับผลลัพธ์ของการซานิไทส์ และฆ่าเชื้อโรคที่นอนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในที่พักอาศัยและตามโรงแรมชั้นนำทั่วโลก
กระบวนการฆ่าเชื้อโรคและซานิไทส์เซชั่นที่นอนที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
ขั้นที่1ตอนการแยกอนุภาคฝุ่นออก ระบบจะทำการสร้างการสั่นไหวด้วยคลื่นความถี่ระดับสูงไปยังที่นอน เพื่อที่จะทำให้อนุภาคของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ฝังลึกอยู่ในที่นอนนั้นหลุดออก
ขั้นที่2ตอนการแยกสิ่งสกปรก การแยกอนุภาคสิ่งสกปรกและสิ่งมีชีวิตเล็กๆให้ออกมาด้วยการสกัดผ่านระบบสูญญากาศหลายระดับ ซึ่งพัฒนามาให้เหมาะสำหรับการใช้งานกับที่นอนโดยเฉพาะ
ขั้นที่3ตอนการฆ่าเชื้อโรค ด้วยการทำงานไปพร้อมๆกันของระบบซานิไทส์เซชั่นและฆ่าเชื้อโรค รังสีอัลตร้าไวโอเล็ตเข้มข้นที่สามารถฆ่าเชื้อโรคนั้นได้ถูกนำมาใช้เพื่อฆ่าแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราซึ่งฝักตัวอยู่ในที่นอน วิธีการนี้เป็นกระบวนการเดียวกันที่ใช้และได้รับการยอมรับในด้านการแพทย์
ขั้นที่4ตอนการปกป้องเตียงนอนในระยะยาว ด้วยประสิทธิภาพของสเปรย์โปเตม่าที่ได้รับสิทธิบัตรและการยอมรับในระดับนานาชาติ คุณสามารถปกป้องที่นอนของคุณจากสิ่งมีชีวิตที่ไม่พึงประสงค์เช่น ไรฝุ่น แบคทีเรีย นอกจากนั้นด้วยคุณสมบัติของโปเตม่าสเปรย์ยังสามารถหยุดการเจริญเติบโตของไรฝุ่นได้อีกด้วย
โรคภูมิแพ้มีสาเหตุมาจากอะไร ???
- สภาวะแวดล้อม ไรฝุ่น แมลงสาบ สัตว์เลี้ยง แมลงต่างๆ
- เชื้อโรคต่างๆ แบคทีเรีย เชื้อรา
- ภูมิอากาศ ฤดูหนาว และ ฤดูร้อน
- เสื้อผ้า ผ้าที่ทำจากขนสัตว์
- สบู่ ผงซักฟอก ชนิดที่มีฤทธิ์เป็ด่าง
- อาหาร นม ไข่ ถั่วเหลือง อาหารทะเล
- ความเครียด วิตกกังวล
การดูแลรักษา
-> ดูแลตัวเอง โดยการหลีกเลี่ยงอาหาร ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ รวมทั้งผัก และผลไม้ รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่เสมอ
-> กำจัดสิ่งที่เป็นพิษภายในบ้าน หมั่นทำความสะอาด หาวิธีดูดฝุ่นที่นอนและเปลี่ยนเครื่องนอนทุก ๆ สัปดาห์ ถ้าจำเป็นต้องทำความสะอาดเอง ควรใช้ผ้าปิดปากและจมูก หรือสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ขณะทำความสะอาดด้วย นอกจากนั้นควรล้าง แผ่นกรองฝุ่นของเครื่องปรับอากาศทุก ๆ 2 สัปดาห์
-> ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้สดชื่น ไม่เครียด หรือวิตกกังวลมากจนเกินไป หลีกเลี่ยงสถานทีที่แออัด
-> งดเลี้ยงสัตว์ที่มีขนทุกชนิด เพื่อป้องกันไม่เกิดสิ่งก่อภูมิแพ้ และอาจจะต้องงดการนำดอกไม้เข้าบ้าน เพราะละอองเกสรดอกไม้ เป็นสิ่งก่อภูมิแพ้ชั้นดี สัตว์ที่ผู้เป็นโรคนี้สามารถเลี้ยงได้ อย่างปลอดภัย คือ ปลา
-> ในผู้ที่ต้องการใช้ยา ในการรักษา ให้ใช้ยาในกลุ่มยาแก้แพ้ ยาพ่นจมูก ยาทาผิวหนัง ยาสูดหรือพ่น และยาหยอดตา เป็นการรักษาเบื้อต้น แต่ถ้าในรายที่เป็นหนัก ก็อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นยาฉีด หรืออาจจะไปถึงขั้นต้องผ่าตัดเลยก็ได้
อย่างไรก็ดี การดูแลตัวเอง ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของโรคภูมิแพ้ เพราะเมื่อเป็นแล้ว โอกาศหายค่อนข้างมีน้อย ต่อให้มียาดีมารักษา แต่ดูแลตัวเองไม่ดี ก็ไม่สามารถหายได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นแล้ว ต้องรู้จักวิธีการดูแลตัวเอง ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น และหลีกเลี่ยงต่อสถานที่ อาหาร และความเสี่ยงต่าง ๆ ให้มากที่สุด พร้อมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ที่เป็นการทำร้ายตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมปรับสภาพให้กลับมาสู้ ต่อสิ่งกระตุ้นการแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บางคนอาจนึกภาพไม่ออกว่าเจ้าตัวไรฝุ่นหน้าตาเป็นแบบไหน เอ้า!! ภาพมาค่ะ