5 วิธีกำจัดกลิ่นอับโซฟา

ปัญหา โซฟามีกลิ่นอับ เป็นปัญหาที่หลายๆบ้านต้องเคยพบเจอ ยิ่งเป็นบ้านที่ต้องต้อนรับแขกอยู่บ่อยๆ ก็คงจะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีสำหรับตัวคุณ และครอบครัว ใครที่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ และได้ลองหาวิธีแก้โดย การทำความสะอาดโซฟา แต่สุดท้ายกลิ่นเหม็นอับก็ยังคงกลับมา อาจเป็นเพราะว่าคุณทำความสะอาดไม่ถูกวิธี หรือว่ามีปัจจัยเสริมอื่นๆที่ยังทำให้ โซฟา ของคุณมีโอกาสเกิดกลิ่นอับซ้ำอีกครั้ง

วันนี้ ดี ไฮจีนิค มีวิธีขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้ออกไป ทำให้ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกของคุณกลับมามีกลิ่นหอมสะอาดชวนให้น่านั่งอีกครั้ง

1.ใช้เครื่องดูดฝุ่นเก็บเศษสิ่งสกปรก
การทำความสะอาดโซฟาด้วยเครื่องดูดฝุ่น เป็นขั้นตอนแรกในการขจัดกลิ่นอับโซฟา และยังเหมาะกับโซฟาที่ไม่ควรโดนน้ำอีกด้วย เพียงแค่คุณใช้ เครื่องดูดฝุ่น แล้วเปลี่ยนเป็นหัวแปรงสำหรับเก็บทำความสะอาดตามซอกต่างๆ ที่มีพวกเศษฝุ่น, อาหาร และเส้นผมที่หล่นอยู่ตามมุมของโซฟา โดยเฉพาะบริเวณที่วางแขน และที่พิงจะเป็นพื้นที่ที่คุณสัมผัสบ่อยที่สุด จึงทำให้มีเศษสิ่งสกปรกสะสมอยู่เยอะ
พอคุณดูดฝุ่นเสร็จ ให้คุณนำผ้าสะอาดสีขาวมาเช็ดให้ทั่วโซฟาได้เลย โดยไม่จำเป็น ที่จะต้องนำผ้าไปชุบน้ำก่อนเช็ด เป็นการเช็ดแบบแห้ง เพื่อต้องการเก็บละอองฝุ่นเล็กๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่บนโซฟาผ้า วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย และควรทำอย่างน้อยทุกๆสัปดาห์
แต่ถ้าหากคุณมีเครื่องดูดไรฝุ่นด้วย หลังจากที่คุณดูดฝุ่นเสร็จ ให้ใช้เครื่องดูดไรฝุ่นทำความสะอาดตามอีกรอบได้เลย แถมยังเป็นการเก็บเศษฝุ่นที่เป็นก้อนเล็กๆที่มักอยู่ในเนื้อผ้า ซึ่งเป็นวิธีทำความสะอาดที่เหมาะสำหรับคนเป็นโรคภูมิแพ้อีกด้วย นอกจากการดูดฝุ่นบนโซฟาจะช่วยให้โซฟาสะอาดผู้ใช้งานมีสุขลักษณะที่ดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยให้โซฟาผ้าของคุณระบายอากาศได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย
2.ใช้เบกกิ้งโซดาช่วยขจัดคราบและกลิ่น
เบกกิ้งโซดาเรียกได้ว่าเป็นผงวิเศษที่คุณควรจะมีติดบ้าน นอกจากจะนำไปใช้ในการขจัดคราบแล้วยังสามารถกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ดีอีกด้วย การใช้เบกกิ้งโซดาในการกำจัดกลิ่นอับ โดยโรยผงเบกกิ้งโซดาทั่วโซฟาทิ้งเอาไว้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง แล้วค่อยนำเครื่องดูดฝุ่นมาเก็บเศษผงเบกกิ้งโซดาที่อยู่บนโซฟาให้หมด
เพียงเท่านี้กลิ่นอับก็จะหายไป แต่ถ้าเป็นกรณีที่คุณพลาดทำน้ำหรืออาหารหกใส่โซฟาให้คุณรีบหาผ้าสะอาดมาซับน้ำที่หกบนโซฟาก่อน หลังจากนั้นให้คุณเทผงเบกกิ้งโซดาลงบนคราบน้ำนั้น ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 – 45 นาที เสร็จแล้วให้ใช้ แปรงขัด เบาๆ เก็บเศษผงเบกกิ้งโซดาที่หลงเหลือให้หมด นำ ผ้าสะอาด มาเช็ดโซฟาอีกครั้ง เพื่อไม่มีผงเบกกิ้งโซดาติดอยู่บนโซฟา หรือเวลาที่คุณนั่งจะได้ไม่มีผงติดตามเสื้อผ้าของคุณอีกด้วย
3.ใช้น้ำยาทำความสะอาดโซฟาโดยเฉพาะ
ใครที่ลองใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด และเก็บเศษอาหาร ฝุ่นละออง หรือสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตามมุมต่างๆของโซฟา และลองใช้เบกกิ้งโซดาเพื่อกำจัดกลิ่นแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นเหม็นอับอยู่
แนะนำให้คุณลองใช้ สเปรย์ขจัดคราบสกปรก สำหรับเฟอร์นิเจอร์บุผ้า สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านที่จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เป็นเหมือนวิธีการซักแห้งที่ จะช่วยทำความสะอาดโซฟาของคุณไม่ให้มีคราบสิ่งสกปรกสะสมอยู่ และยังช่วยลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในโซฟา วิธีในการใช้ให้คุณปิดพัดลมภายในห้องก่อน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ละอองสเปรย์ที่ฉีดฟุ้งออกไป และไม่โดนที่ตัวโซฟาเท่าที่ควร ฉีดให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 นาที
หลังจากนั้นให้นำผ้าแห้งที่สะอาดมาเช็ด เพื่อซับคราบสิ่งสกปรกให้ออกให้หมด หลังจากนั้นให้เปิดพัดลม หน้าต่าง ประตูออกให้หมด เพื่อให้ห้องมีอากาศที่ถ่ายเท ช่วยให้โซฟาไม่มีความชื้นแล้วเกิดกลิ่นอับอีกครั้ง แต่ถ้าใครอยากจะให้โซฟามีกลิ่นหอมมากขึ้นสามารถใช้ สเปรย์อเนกประสงค์ กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่มีแอนตี้แบคทีเรีย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง แถมยังทำให้โซฟาผ้าของคุณมีกลิ่นหอมมากขึ้น และยังช่วยลดกลิ่นอับที่ติดบนผ้าได้อีกด้วย (ไม่สามารถใช้กับโซฟาหนังได้)
4.อย่าลืมทำความสะอาดหมอนอิง
การทำความสะอาดหมอนอิงเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรลืม เพราะถ้าคุณได้ทำความสะอาดโซฟาจนหมดจด จนไม่มีกลิ่นอับชื้นหลงเหลืออยู่ แต่ถ้าหากคุณไม่ได้ทำความสะอาดหมอนอิงด้วย ก็มีโอกาสที่จะทำให้ภายในห้องของคุณยังมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์หลงเหลืออยู่ได้ วิธีในการทำความสะอาดให้คุณเริ่มจากการถอดปลอกหมอนแยกออกจากตัวหมอนก่อน แล้วซักปลอกหมอน และหมอนแยกกัน โดยไม่ควรนำมาซักรวมกัน ซึ่งตัวหมอนที่คุณนำไปซักจะต้องเปิดน้ำให้เต็มถัง แล้วจึงใส่ น้ำยาซัก ลงไปผสมให้เรียบร้อย
หลังจากนั้นให้คุณกดหมอนอิงลงไปในน้ำยาซัก โดยที่คุณต้องมั่นใจว่าน้ำยาจะซึมเข้าตัวหมอนอย่างทั่วถึง แช่ทิ้งเอาไว้ซัก 30 นาที พอครบเวลากำหนดให้นำไปล้างในน้ำสะอาด โดยบีบหมอนย้ำๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสะอาด และเปลี่ยนน้ำล้างจนกว่าฟองจะหมด
หลังจากนั้นนำไปตากแดดอ่อนๆ และมีลมพัดผ่านสะดวก แต่ไม่ต้องโดนแดดแรงๆ เพื่อไม่ให้หมอนของคุณชื้น และทำให้เกิดเชื้อราขึ้นภายในหมอนอิง แต่ถ้าหมอนอิงใบไหนที่คุณไม่สะดวกต่อการนำไปซักจริงๆ คุณสามารถนำหมอนอิงมาผึ่งแดดได้ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยกำจัดกลิ่นได้เช่นกัน ซึ่งควรทำอย่างน้อยเดือนละครั้ง
หากหมอนอิงของคุณทั้งเก่าทั้งหมอง ไม่น่ามอง และไม่น่าใช้งานแล้ว ทางโกลบอลเฮ้าส์ขอแนะนำเปลี่ยน หมอนอิง ซึ่งมีให้คุณเลือกหลากหลายสไตล์ เพื่อทำให้โซฟาของคุณไร้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และกลับมาน่านั่งมากยิ่งขึ้น
5.ทำให้ห้องมีอากาศที่ถ่ายเท
ใครที่กำลังมีปัญหากับ โซฟามีกลิ่นอับ และได้ทำความสะอาดโซฟา โดยหาวิธีกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไปบ้างแล้ว แต่พอใช้งานไปสักพักสุดท้ายกลิ่นเหล่านั้นก็กลับมา เป็นเพราะว่าห้องของคุณมีอากาศไม่ถ่ายเทเท่าที่ควร หากใครที่ทำโซฟาเปียกน้ำแล้วซับน้ำออก โดยคิดว่าเดี๋ยวโซฟาก็แห้งเอง
หรือว่าใครที่ไม่รู้ตัวเผลอนั่งโซฟาทั้งๆ ที่ยังมีเหงื่อเปียกตัวอยู่ จะทำให้โซฟาของคุณเกิดความชื้นสะสม เนื่องจากห้องของคุณมีอากาศไม่ถ่ายเทเท่าที่ควร หากทิ้งเอาไว้นานๆ จะเกิดเป็นเชื้อราได้ วิธีในการแก้ไขคือ ให้คุณเปิดหน้าต่าง หรือเปิดห้องให้อากาศถ่ายเทมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจใช้ พัดลม เป็นตัวช่วยอีกแรง เพียงเท่านี้ห้องของคุณก็จะได้ไม่มีกลิ่นเหม็นอับมากวนใจของคุณอีกต่อไป

“ดี ไฮจีนิค” บริการทำความสะอาดพร้อมฟื้นฟูสุขอนามัยแบบครบวงจร เพื่อประสิทธิภาพการนอนที่ดีขึ้น ด้วยนวัตกรรมจากประเทศเยอรมนี

“ดี ไฮจีนิค” 💚  ยืนหนึ่ง‼ ด้านบริการทำความสะอาดพร้อมฟื้นฟูสุขอนามัยแบบครบวงจร ด้วยนวัตกรรมจากประเทศเยอรมนี🇩🇪  ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีสาขาทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ 👍
✅ บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ที่นอน พรม โซฟา ผ้าม่าน อันดับ 1 ของโลก ลิขสิทธิ์นำเข้าจากเยอรมนี
✅  ระบบและขั้นตอนที่ทันสมัย แห้งและปลอดสารเคมี 
✅ ได้รับการรับรองผลลัพธ์และความปลอดภัยจาก ECARF (องค์กรวิจัยโรคภูมิแพ้ยุโรป)
✅ มีบริการตรวจสอบปริมาณไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ฟรี หรือประเมินพื้นที่ก่อนให้บริการจริง
⠀⠀⠀

บทความที่เกี่ยวข้อง

Scroll to Top