รู้หรือไม่? รังสี UV ที่อยู่ในร่มมาจากไหน

หน้าต่างกระจกบ้านหรือออฟฟิศ แค่เราเปิดม่าน เปิดหน้าต่าง ก็ถือเป็นการปล่อยให้ รังสี UVA เข้ามาได้ แม้จะดูเหมือนว่ากระจกจะช่วยกรองแสงแดดได้ในระดับหนึ่ง แต่กระจกใส รังสี UVA จะสามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ถึง 75% กระจกสีหรือกระจกสะท้อนแสง รังสี UVA สามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ 25-50% รังสียูวี (UV) จากแสงแดดมีความอันตรายหลายประการต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ดังนี้

1.อันตรายต่อผิวหนัง: การสัมผัสกับรังสียูวีมากเกินไปสามารถทำให้ผิวหนังเกิดการไหม้จากแดด (sunburn) ทำให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง เช่น มะเร็งผิวหนังชนิดเมลานโมมา (melanoma) และมะเร็งผิวหนังชนิดอื่นๆ

2.อันตรายต่อดวงตา: รังสียูวีสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตา เช่น ต้อกระจก (cataract), ต้อหิน (glaucoma), และการอักเสบของกระจกตา (corneal inflammation) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้

3.การลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน: การสัมผัสรังสียูวีมากเกินไปสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดประสิทธิภาพลง ทำให้ร่างกายอ่อนแอต่อการติดเชื้อและโรคต่างๆ

4. อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม: รังสียูวีสามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อพืชและสิ่งมีชีวิตในน้ำ เช่น ฟอกซ์ (phytoplankton) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อาหารในทะเล การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมโดยรวม

การป้องกันที่ดีที่สุดคือการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง สวมเสื้อผ้าที่ปกป้อง รังสี UV และใส่แว่นตากันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงที่แสงแดดมีความเข้มข้นสูงที่สุด เช่น ช่วงกลางวันจาก 10:00 น. ถึง 16:00 น. การป้องกันรังสียูวี (UV) สามารถทำได้หลายวิธีเพื่อให้ผิวหนังและดวงตาของคุณปลอดภัยจากอันตรายที่เกิดจากรังสี

  1. ใช้ครีมกันแดด:
    • เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF (Sun Protection Factor) สูงและสามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB เช่น ครีมกันแดดที่มีคำว่า “broad-spectrum”.
    • ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านประมาณ 15-30 นาที และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำหรือเหงื่อออก
  2. สวมเสื้อผ้าที่ปกป้องได้ดี:
    • ใช้เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าหนาและปกคลุมร่างกายให้มากที่สุด โดยเฉพาะเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว
    • เลือกเสื้อผ้าที่มีป้ายป้องกันรังสียูวี (UPF: Ultraviolet Protection Factor) ซึ่งบ่งบอกถึงระดับการป้องกัน UV ของเนื้อผ้า
  3. สวมหมวกและแว่นตากันแดด:
    • สวมหมวกที่มีปีกกว้างเพื่อป้องกันรังสี UV จากการตกกระทบที่ใบหน้า
    • ใช้แว่นตากันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ เพื่อปกป้องดวงตาจากความเสียหาย
  4. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในช่วงที่แสงแดดมีความเข้มข้นสูง:
    • หลีกเลี่ยงการออกไปกลางแจ้งในช่วงที่แสงแดดมีความเข้มข้นสูงที่สุด เช่น ช่วงเวลา 10:00 น. ถึง 16:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสี UV แรงที่สุด
  5. หาที่ร่ม:
    • เมื่ออยู่กลางแจ้ง, ค้นหาที่ร่มหรือใช้ร่มกันแดดเพื่อลดการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
  6. ตรวจสอบค่ารังสียูวี:
    • เช็คดัชนีรังสี UV ก่อนออกจากบ้าน โดยสามารถดูได้จากการพยากรณ์อากาศหรือแอพพลิเคชันที่ติดตามดัชนี UV
  7. ระวังการสะท้อนของแสงแดด:
    • แสงแดดสามารถสะท้อนจากพื้นผิวเช่น น้ำ, หิมะ, หรือทราย ทำให้คุณได้รับ รังสี UV เพิ่มเติม ควรระมัดระวังเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการสะท้อนของแสง

การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสรังสียูวีและป้องกันปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

DH FILM ฟิล์มกรองแสง ที่สามารถกันรังสีอินฟราเรดได้สูงสุดถึง 99% จากเทคโนโลยีขั้นสูง ( G5 Nano Ceramics Film ) เพิ่มความมั่นใจในคุณภาพได้มาตรฐานสากลโดยผ่านการทดสอบขั้นสูงจากสถาบัน JIS (Japan Industrial Stand) ทำให้ทัศนวิสัยที่คมชัดดีเยี่ยม ทั้งคุณสมบัติที่เหนือกว่า‼

DH-FILM เกรด Premium ป้องกันความร้อนจากรังสีอินฟราเรดได้สูงที่สุดถึง 99% ป้องกันความร้อนรวมได้สูงถึง 96%
⭐ ช่วยลดความร้อน ประหยัดค่าไฟ
⭐ ลดแสงจ้าไม่ทำให้ตาล้า และลดแสงสะท้อนรบกวนสายตา
⭐ เพิ่มความเป็นส่วนตัว
⭐ ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV , IRR ที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
⭐ ปกป้องและยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์และเครื่องเรือนภายในอาคาร
⭐ ช่วยลดอันตรายจากกระจกแตก
⠀⠀⠀

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

De Hygienique ทั้ง 2 สาขา

1. Emporium แผนก The Living ชั้น 4
2. Central ชิดลม แผนก Bedding ชั้น 5

หรือผ่านช่องทางออนไลน์

– Facebook : @dhthailand

– Line : @dh-thailand

– IG : dhthailand

– Call : 02-281-7103

– www.dh-thailand.com

Scroll to Top