ก่อนหน้านี้ กทม.ประกาศขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมถึงประชาชนให้ WFH ในวันที่ 20-21 ม.ค.และจะขยายระยะเวลาเพิ่มเติมไปจนถึงวันที่ 24 ม.ค. หากสถานการณ์ฝุ่นยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมปริมาณฝุ่น PM2.5 พบเกินค่ามาตรฐานทั้ง 50 เขต แม้ว่าการทำงานที่บ้านจะช่วยลดความเสี่ยงจากมลภาวะภายนอก แต่ภายในบ้านเองก็ยังสามารถสะสมฝุ่นได้เช่นกัน การทำความสะอาดบ้านเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยลดการสะสมของฝุ่นภายในบ้านและทำให้คุณทำงานที่บ้านได้อย่างปลอดภัย
1. ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ
การทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการลดการสะสมของฝุ่น PM 2.5 ภายในบ้าน คุณควรทำความสะอาดพื้น ผนัง และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่อาจสะสมฝุ่น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คุณใช้ทำงาน เช่น ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน วิธีการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพคือการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์ HEPA ซึ่งสามารถช่วยดูดฝุ่นขนาดเล็กได้
2. เลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์ HEPA
เครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์ HEPA (High Efficiency Particulate Air) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นขนาดเล็กและฝุ่น PM 2.5 โดยฟิลเตอร์ HEPA จะช่วยกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กมากจนมองไม่เห็น และลดความเสี่ยงจากการสะสมฝุ่นภายในบ้าน เมื่อทำความสะอาดพื้นหรือพรม ควรเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์ HEPA เพื่อให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากที่สุด
3. ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้อากาศในบ้านสะอาดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง ดังนั้นการทำความสะอาดและเปลี่ยนฟิลเตอร์ของเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เครื่องเหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ที่สะสมอยู่ในอากาศภายในบ้าน
4. เปิดหน้าต่างและประตูในช่วงเวลาที่อากาศสะอาด
แม้ว่าจะมีการปิดหน้าต่างและประตูเพื่อป้องกันฝุ่นจากภายนอกในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูง แต่ในช่วงที่อากาศภายนอกดีและฝุ่นลดลง ควรเปิดหน้าต่างและประตูเพื่อให้มีการหมุนเวียนของอากาศใหม่ ซึ่งจะช่วยลดความชื้นและการสะสมของฝุ่นภายในบ้านได้ การทำเช่นนี้ยังช่วยให้คุณได้สัมผัสกับอากาศที่สดชื่นและลดความอับชื้นในบ้าน
5. เลือกใช้วัสดุป้องกันฝุ่นในบ้าน
วัสดุบางประเภทสามารถช่วยลดการสะสมของฝุ่นภายในบ้านได้ เช่น พรมและผ้าม่านควรเลือกวัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และไม่สะสมฝุ่นมากเกินไป นอกจากนี้ควรใช้วัสดุที่ไม่กักเก็บฝุ่น เช่น พื้นไม้หรือกระเบื้องแทนการใช้พรมในห้องที่ทำงาน เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
6. ดูแลการระบายอากาศภายในบ้าน
การระบายอากาศที่ดีภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญในการลดการสะสมของฝุ่น PM 2.5 การใช้พัดลมหรือเครื่องฟอกอากาศในช่วงที่อากาศไม่ดีสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศภายในบ้าน แต่หากอากาศภายนอกสะอาด ควรเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทและลดการสะสมของฝุ่นในห้อง
7. ดูแลสุขภาพทางเดินหายใจของคุณ
การดูแลสุขภาพทางเดินหายใจจากผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 เป็นสิ่งสำคัญ โดยการดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยล้างสารพิษจากร่างกาย และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในช่วงที่อากาศดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบทางเดินหายใจ
8. สวมหน้ากากอนามัยเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ในกรณีที่ต้องออกไปทำกิจกรรมภายนอกบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัยที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ เช่น หน้ากาก N95 หรือ KF94 ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการสูดดมฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
การทำงานที่บ้านในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง ไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นได้ทั้งหมด แม้ว่าจะอยู่ในบ้านก็ตาม การทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ การใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์ HEPA และการดูแลเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน จะช่วยลดการสะสมของฝุ่น PM 2.5 และทำให้คุณทำงานที่บ้านได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้การดูแลสุขภาพร่างกายและการระบายอากาศภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 ให้กับคุณและครอบครัว
“ดี ไฮจีนิค” บริการทำความสะอาดพร้อมฟื้นฟูสุขอนามัยแบบครบวงจร เพื่อประสิทธิภาพการนอนที่ดีขึ้น ด้วยนวัตกรรมจากประเทศเยอรมนี
“ดี ไฮจีนิค” ยืนหนึ่ง ด้านบริการทำความสะอาดพร้อมฟื้นฟูสุขอนามัยแบบครบวงจร ด้วยนวัตกรรมจากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีสาขาทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ
บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ที่นอน พรม โซฟา ผ้าม่าน อันดับ 1 ของโลก ลิขสิทธิ์นำเข้าจากเยอรมนี
ระบบและขั้นตอนที่ทันสมัย แห้งและปลอดสารเคมี
ได้รับการรับรองผลลัพธ์และความปลอดภัยจาก ECARF (องค์กรวิจัยโรคภูมิแพ้ยุโรป)
มีบริการตรวจสอบปริมาณไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ฟรี หรือประเมินพื้นที่ก่อนให้บริการจริง
⠀⠀⠀