ต้อนรับฤดูหนาวด้วยค่าฝุ่นที่บางจุดวัดได้สูงถึง 160 AQI* (AQI : Air Quality Index หรือ ดัชนีคุณภาพอากาศ ที่แสดงความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศหลายชนิดมาคำนวนหาค่า และแสดงออกให้เข้าใจได้อย่างง่ายผ่านสีต่างๆและมีตัวเลขกำกับไว้)
เพราะอากาศในช่วงปลายปีของประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงอากาศเย็น สภาพอากาศปิด ไม่มีช่องว่างให้อากาศไหลผ่านไปตามระบบ เมื่ออากาศปิด จะส่งผลให้มลภาวะเป็นพิษทางอากาศสูงตามไปด้วย
ในช่วงฤดูหนาวนี้ หากต้องออกเดินทางไปด้านนอก หรือทำการออกกำลังกายในที่แจ้ง อย่าลืมที่จะสวมหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 หรือหากอยู่ในอาคารบ้านเรือน การทำความสะอาดที่ได้มาตรฐานก็ถือเป็นการป้องกันสุขภาพของตัวเองได้เช่นกันค่ะ
ต้นกำเนิดฝุ่นพิษ PM 2.5 ในกรุงเทพฯ มากกว่า60% เกิดจากเครื่องยนต์ดีเซลที่เกิดการเผาไหม้ ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดควันดำและฝุ่น อีกทั้งมาจากการเผาขยะ หญ้าแห้ง กิ่งไม้ในที่โล่ง และการก่อสร้าง
ซึ่งในปัจจุบันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯนั้นมีมานานแล้ว แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ สภาพอากาศในกรุงเทพฯ เป็นสภาพอากาศปิด เพราะมีอาคารขนาดสูง ล้อมรอบเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่เกิดถ่ายเท
และฝุ่น PM2.5 เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะสามารถเดินทางผ่านทางเดินหายใจสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย เพิ่มโอกาสของโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ และต้องป้องกันด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานป้องกันฝุ่นขนาดเล็กโดยเฉพาะ
ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือเกณฑ์สีส้ม (101-200 มคก./ลบ.ม.) ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงทางเดินหายใจ โรคปอด ที่อยู่ในพื้นที่ฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ควรลดระยะเวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ขณะอยู่กลางแจ้ง หากมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์
นอกจากจะต้องระมัดระวังตัวเองแล้ว การดูแลรักษาความสะอาดภายในบ้าน ก็เป็นสิ่งสำคัญ ทางแอดมินขอแนะนำ บริการการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพจาก
“DE HYGIENIQUE ดี ไฮจีนิค”