เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ว่าติดผ้าม่านแล้วทำไมถึงต้องติดฟิล์ม ? ทุกคนอาจจะไม่รู้ตัวหรือสงสัย ว่าทำไมติดผ้าม่านแล้วห้องก็ยังร้อน นั่นเป็นเพราะหน้าที่ของผ้าม่านนั้นกันได้เพียงแสงสว่าง และบดบังการมองเห็นจากภายนอกเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ไม่สามารถกันรังสีความร้อน หรือรังสีอินฟราเรดได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหลายบ้านจึงเลือกที่จะติดฟิล์ม โดยเฉพาะฟิล์ม DH-FILM ที่ป้องกันได้ทั้งแสง , รังสี UV และรังสีอินฟราเรดได้สูงสุดถึง 99% ช่วยลดความร้อนภายในบ้าน แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟ

ฟิล์มนอกจากคุณสมบัติช่วยลดความร้อนภายในบ้านแล้ว ยังช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวภายในบ้านอีกด้วยในเวลากลางวัน และด้วย Anti Glare Technology ถึงจะติดฟิล์มทึบแค่ไหน ภายในบ้านก็ยังมองเห็นภายนอกได้อย่างชัดเจน แต่ในเวลากลางคืนภายนอกบ้านนั้นสามารถมองเห็นข้างในบ้านได้ เพราะแสงไฟจากภายในบ้านนั้นมากกว่าภายนอกบ้าน ซึ่งถ้าหากห้องนั้นต้องการความเป็นส่วนตัวสูง การติดผ้าม่านเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

เนื่องจากฟิล์มกรองแสงมีหลากหลายความเข้ม ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มเข้ม 40/60/80 และฟิล์มใส ซึ่งแต่ละความเข้ม เหมาะสำหรับห้องชนิดไม่เหมือนกัน และ ที่สำคัญต้องดูทิศทางของแสงแดดประกอบด้วย อาทิ

– ห้องที่อยู่ทิศตะวันตก ที่แสงแดดเข้ามาตลอดทั้งบ่าย อาจจะต้องเลือกฟิล์มที่มีความเข้มกลางๆ แนะนำ ฟิล์มกรองแสงความเข้ม 60%
– ห้องนอน ที่อยากได้ความมืด ความเป็นส่วนตัว แนะนำให้เลือกความเข้ม 80%
– ส่วนห้องรับแขก ห้องทานข้าว แนะนำความเข้มฟิล์มกรองแสงที่40% ทำให้ดูโปร่งสบาย ไม่อึดอัด
– ห้องที่อยู่ชั้นล่างสุด ติดถนนหรือทางเดิน ไม่อยากให้ใครมองเข้ามาข้างในเห็น แนะนำให้ติดฟิล์มกรองแสงความเข้ม 80%

การติด DH-FILM ช่วยลดความร้อนได้มากอย่างเห็นผล โดยเฉพาะช่วงเวลากลางวัน โดยความร้อนนั้นเกิดขึ้นได้จาก แสงและรังสีอินฟราเรด ซึ่งจากการทดสอบ DH-FILM รุ่น PT80 สามารถป้องกันค่าความร้อนรวม (TSER) ได้ถึง 96% เพราะฉะนั้นเครื่องปรับอากาศภายในบ้านก็จะทำงานน้อยลงช่วยให้ประหยัดค่าไฟ แถมยังทำให้ห้องเย็นไวขึ้นอีกด้วย เพราะความร้อนสะสมภายในห้องถูกทำให้ลดน้อยลงด้วย DH-FILM

ทีมงานติดตั้งฟิล์มจาก ดี ไฮจีนิค มีประสบการณ์การติดตั้งฟิล์มมากกว่า 10 ปี โดยงานติดตั้งฟิล์มภายในบ้านพื้นที่ขนาด 200-500 ตารางฟุต ใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น และพิเศษกว่านั้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่มีค่าเดินทางเพิ่มเติม