โควิดหลังสงกรานต์ วันที่ 16 เมษายน 2566 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ระหว่างวันที่ 9-15 เม.ย.66 พบผู้ป่วยรายใหม่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้วทั้งหมด 435 คน เฉลี่ยวันละ 62 คน ซึ่งมีแนวโน้มพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าของสัปดาห์ก่อนหน้า นอกจากนี้ มีรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 คน และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย เพิ่มขึ้น 58% และ 36% ตามลำดับ เปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อน
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ หลังห่างหายจากเทศกาลสงกรานต์มานาน การเดินทางไปท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา รวมทั้งสถานประกอบการ สถานบันเทิง มหกรรมรื่นเริงกลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สัปดาห์ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น นานเกินกว่า 3 เดือนแล้ว จึงขอย้ำให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่สถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็ว โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ทั้งนี้ สถานบริการจะปรับการให้บริการรูปแบบวัคซีนโควิดประจำปีตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
ส่วนกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์โควิด XBB.1.16 ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก พบเชื้อแล้วใน 22 ประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินเดีย เชื้อสายพันธุ์ล่าสุดนี้มีความสามารถในการติดต่อสูงกว่าเชื้อสายพันธุ์ในอดีต เป็นที่จับตาขององค์การอนามัยโลก แต่ข้อมูลขณะนี้พบว่าอาการไม่ได้รุนแรงเพิ่ม ทั้งนี้ ฐานข้อมูล GISAID มีรายงานการตรวจพบสายพันธุ์นี้ในประเทศไทย 6 คน จากที่มีรายงานทั่วโลกเกือบ 3 พันคน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 เม.ย.66)
อาการโควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16
มีไข้สูง
ไอ
จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง ลักษณะคล้ายตาแดง มีผื่นคัน (ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น เยื่อบุตาอักเสบ ภูมิแพ้ ควรระมัดระวัง)
อาการตาแดงโควิด จะมีลักษณะอาการดังต่อไปนี้
เยื่อบุตาอักเสบ หรือบวม
ตาแดง
น้ำตาไหล
ระคายเคืองตา
คัน
มีขี้ตา
ตาสู้แสงไม่ได้
กรมอนามัยขอให้ประชาชนเฝ้าระวังตนเอง โดยสังเกตอาการ หากไอ เจ็บคอ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ให้ตรวจ ATK เพื่อความมั่นใจ รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อกลับเข้าไปทำงาน และล้างมือเป็นประจำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะหากเกิดการระบาดเป็นวงกว้างอาจส่งผลต่อการทำงาน ผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้างานอาจพิจารณาให้พนักงานที่ป่วยทำงานที่บ้าน
ปกป้อง 🛡 พื้นที่ของคุณด้วยบริการจาก ” ดี ไฮจีนิค ” เทคโนโลยีที่ดีที่สุดจากประเทศเยอรมนี ฆ่าเชื้อในทันทีพร้อมเคลือบปกป้องทุกพื้นผิวได้ยาวนาน 2-3 เดือน
☑️ เทคโนโลยี Fogging ควัน กำจัดเชื้อโรคทันทีได้ทั่วทุกพื้นที่
☑️ เคลือบปกป้องทุกพื้นผิวได้ยาวนาน 2-3 เดือน
☑️ น้ำยาออร์แกนิค food grade 🍀 ไม่มีสารเคมีตกค้าง
☑️ ไม่เป็นอันตรายต่อ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะไม่มีความชื้น
☑️ ด้วยระบบควัน จึงไม่ทำให้เกิดการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค
☑️ ไม่ต้องทำความสะอาดเช็ดถูพื้นที่ซ้ำ
☑️ บริการถึงที่ฟรีไม่มีค่าเดินทาง (สำหรับกทม.และปริมณฑล)
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
De Hygienique ทั้ง 2 สาขา
1. Emporium แผนก The Living ชั้น 4
2. Central ชิดลม แผนก Bedding ชั้น 5
หรือผ่านช่องทางออนไลน์
– Facebook : @dhthailand
– Line : @dh-thailand
– IG : dhthailand
– Call : 02-281-7103