5 เคล็ดลับเลือกน้ำหอม รับหน้าร้อนไม่ทับซ้อนกับกลิ่นเหงื่อ!!
อากาศร้อนๆ แบบนี้ส่งผลต่อกลิ่นกายและเหงื่อไหลย้อย สร้างความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันของใครหลายคน น้ำหอมจึงเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้เรามีกลิ่นตัวหอมในวันที่อากาศร้อน แต่อุณหภูมิที่ร้อนแรงก็อาจส่งผลต่อกลิ่นของน้ำหอมได้ เพราะกลิ่นเหงื่ออาจไปทับซ้อนกลิ่นน้ำหอมทำให้กลิ่นผิดเพี้ยนไป และอาจเปลี่ยนจากกลิ่นหอมที่ชวนหลงใหลเป็นกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนาเอาได้ วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับในการใช้น้ำหอมช่วงหน้าร้อนมาฝากสาวๆ กันค่ะ
1.เลือกใช้น้ำหอมกลิ่นสดชื่น
ปัจจุบันแบรนด์น้ำหอมต่างๆ ได้เปิดตัวน้ำหอมประจำฤดูกาลที่เหมาะกับสภาพอากาศมาให้เราได้เลือกสรร ยิ่งหน้าร้อนแบบนี้การเลือกใช้น้ำหอมให้เหมาะสมกับสภาพอากาศเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะช่วยแก้ปัญหาการมีกลิ่นเหงื่อทับซ้อนกับกลิ่นน้ำหอม จนกลายเป็นกลิ่นกายที่ผิดเพี้ยน หลักง่ายๆ ในการเลือกใช้น้ำหอมในหน้าร้อนนี้คือ ควรเลือกกลิ่นน้ำหอมแนวสดชื่น เย็นสบาย กลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุนจนเกินไป เน้นกลิ่นธรรมชาติ เช่น น้ำหอมที่มีส่วนผสมจาก orange blossom, pear, mint, ดอกกุหลาบ และดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งจะช่วยทำให้กลิ่นกายหอมเป็นธรรมชาติ และกลิ่นไม่ปนกับเหงื่อ
2.เน้นฉีดน้ำหอมที่เสื้อผ้า
หากจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกในวันที่อากาศร้อนมาก มักจะเกิดกลิ่นเหงื่อเหม็นอับโดยไม่รู้ตัว แนะนำว่าไม่ควรฉีดน้ำหอมไปที่ผิวกายโดยตรง เพราะนั่นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กลิ่นตัวทับซ้อนกับน้ำหอม ทำให้ได้กลิ่นแปลกๆ แนะนำให้ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าแทน เพื่อให้กลิ่นสามารถคงอยู่ได้นาน หากเกรงว่าน้ำหอมมีกลิ่นแรงไปหรือเสื้อจะเป็นรอยด่างดำก็อาจจะเปลี่ยนจากการฉีดใส่เสื้อผ้าเป็นการหยดน้ำหอมใส่สำลี แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือฉีดลงบนผ้าเช็ดหน้าแทน
3.เลือกใช้น้ำหอมเนื้อครีมหรือบาล์ม
การเลือกใช้น้ำหอมแบบครีมหรือโลชั่นก็เป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งของการใช้น้ำหอมในช่วงหน้าร้อน นอกจากจะใช้ง่าย พกพาได้สะดวกแล้ว เนื้อครีมหรือบาล์มของน้ำหอมยังสามารถซึมสู่ผิวหนังได้ง่าย ไม่เป็นอันตราย ส่งผลให้กลิ่นหอมติดทนยาวนาน นอกจากนี้ยังทำให้ผิวชุ่มชื้น ซึ่งมีส่วนทำให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนาน เพราะกลิ่นหอมมีความผันผวนน้อยลงจึงทำให้กลิ่นติดนานทั้งวัน
4.หมั่นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
อากาศร้อนแห้งเป็นสภาวะที่อาจทำให้ผิวหนังขาดน้ำและแห้งกร้านได้ ซึ่งเป็นสภาวะที่ทำให้เมื่อฉีดน้ำหอมแล้ว กลิ่นติดไม่ทน เราจึงจำเป็นต้องเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยการทาโลชั่น เพื่อให้น้ำหอมติดทนยาวนานมากขึ้น ก่อนฉีดน้ำหอมแนะนำให้ทาโลชั่นเตรียมผิวก่อนทุกครั้ง จากนั้นฉีดพรมน้ำหอมลงไปตามจุดต่างๆ ที่ต้องการ ผิวที่ชุ่มชื้นจะช่วยซึบซับความหอมให้ติดทน
5.เพิ่มกลิ่นหอมให้บ้าน…ผ่อนคลายได้ทุกฤดูด้วยเครื่อง Air Sanitizer
🏠✨ AIR SANITIZER & SCENT MANAGEMENT SYSTEM 🍀
ดีที่สุดของนวัตกรรม “ดีไฮจีนิค” ที่รวมความสะอาดและกลิ่มหอม
✨ หอม สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจคนที่คุณรัก ❤ ✨ ด้วยเครื่อง Air Sanitizer
🥰 ช่วยคุณให้ผ่อนคลาย
😁 ลดความตึงเครียด
😴 ช่วยให้หลับสบายขึ้น
✨ สร้างบรรยากาศให้บ้านของคุณ
Nano Scent Dispenser เทคโนโลยีการกระจายกลิ่นในระดับอนุภาคนาโน 
มีผลช่วยให้สุขภาพการนอนดีขึ้น 
กระจายกลิ่นหอมได้อย่างสม่ำเสมอ 
ครอบคลุมพื้นที่ได้สูงสุด 40 ตารางเมตร น้ำหอมใช้ได้ยาวนานถึง 3 เดือน 
น้ำมันหอมระเหยสกัดจากธรรมชาติ 
ไร้สารเคมีตกค้าง 
ระบบตั้งวันและเวลาอัตโนมัติ 
ติดตั้งง่ายทั้งแบบติดตั้งบนพื้น และติดผนัง 
กลิ่นหอมสดชื่น ทั้ง 6 แบบ Green Tea 
White Tea 
Pink Lady 
Blossom Elegant ✨ Scent of Zen 🍀
โปรโมชั่นพิเศษ
เพียง 2,590 บาท จากราคาปกติ 3,590 บาท
วิธีใช้งานและตั้งค่าเครื่องน้ำหอม
หลับง่าย
กลิ่นจากสารธรรมชาติ มีส่วนช่วยให้ผ่อนคลาย หลับง่ายและหลับสบายตลอดคืน
Nano
ปล่อยกลิ่นด้วย Nano Technology ทำให้ได้กลิ่นที่สม่ำเสมอทั่วพื้นที่ใช้งาน และไม่เลอะพื้นผิว
ยาวนาน
การเติมน้ำหอมเพียง 1 ครั้ง สามารถปล่อยกลิ่นหอมได้ต่อเนื่องได้ยาวนาน
ทั่วถึง
สามารถปล่อยกลิ่นหอมครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวางทั่วบริเวณ
ข้อดีของ Air Sanitizer and Scent Management System
● ปล่อยกลิ่นหอมได้อย่างสม่ำเสมออย่างยาวนาน
● ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ทั่วบริเวณ
● ตั้งวันที่ และเวลาทำการของเครื่องปล่อยน้ำหอมอัตโนมัติได้อย่างอิสระ
● น้ำหอมเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อคน และสัตว์เลี้ยง
● ปล่อยน้ำหอมด้วยวิธี Nano ไม่ทำให้พื้นเปรอะ หรือทำให้มีปัญหากลิ่นหอมไม่ทั่วถึง
● ติดตั้งง่าย สามารถติดได้ทั้งแบบตั้งพื้นและติดผนัง
● ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น ความสะอาด และการกระจายตัวของอากาศให้เหมาะกับสภาพพื้นที่นั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
De Hygienique ทั้ง 2 สาขา
1. Emporium แผนก The Living ชั้น 4
2. Central ชิดลม แผนก Bedding ชั้น 5
หรือผ่านช่องทางออนไลน์
– Facebook : @dhthailand
– Line : @dh-thailand
– IG : dhthailand
– Call : 02-281-7103